ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปัน...คนเรายิ่งอยากได้ก็เหมือนยิ่งขาด ต้องไขว่คว้าหาสิ่งที่ขาดมาเติมเต็ม แต่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม...ในทางกลับกัน...ยิ่งเราให้ก็ยิ่งเหมือนได้รับ...สังคมแห่งการแบ่งปันจะยิ่งเพิ่มพูนด้วยความสุขความเจริญ

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล(กั้นไว้กันตก)

+++สุขภาพจิต+++
...คนป่วยที่ร่างกายเกิดทุกขเวทนา...
ผิวหนังภายนอกที่ปกปิดสังขารภายในอยู่
มิสามารถเก็บของเหลวภายในให้ไม่หลั่งล้นออกมาจากถุงห่อหุ้มไว้ได้

ภาพที่เห็น...

บางคนถึงกับอยากจะเบือนหน้าหนี
แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะแสดงออกมากลัวคนที่ป่วยเห็น
ว่าเรารังเกียจแล้วจะเสียใจ...ใจเสีย
กลิ่นที่ดม...
บางคนได้กลิ่นเกิดอาการผะอืดผะอมแทบจะอาเจียน
แต่มิอาจไม่ห้ามใจตัวเองไว้
เกรงใจคนป่วย ด้วยเหตุผลเดียวกันกับข้างต้น
.
.
.
อารมณ์ขันในโรงพยาบาลนั้น...จึงเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง
.
.
.
พ่อผมเป็นคนแก่ที่ป่วยคนหนึ่ง
แต่กลับยังมีอารมณ์ขัน
กำลังใจดีกว่าคนที่ไปเยี่ยมเสียอีก
คนไปเยี่ยมที่ว่าคือแม่ของผมเอง
บังเอิญเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่...แม่ของผมก็คือภรรยาของพ่อผมนั่นเอง
.
.
.
ครั้งหนึ่ง...
ผมแวะไปเยี่ยมพ่อ ที่โรงพยาบาล หลังเลิกงาน อย่างเคย

วันนั้นผมไม่ได้มานอนเฝ้าพ่อทั้งคืน

โรงพยาบาลอนุญาติให้เฝ้าได้คืนละหนึ่งคน

แม่ต้องนอนข้างเตียงของพ่อ

แต่พ่อนอนบนเตียง แม่นอนบนพื้น

มีเสื่อผืนหมอนใบรองรับร่างกาย

แต่คงไม่เพียงพอ สำหรับแม่

เพราะแม่นอนที่โรงพยาบาลไม่ได้ ด้วยเหตุผลของแม่...นอนไม่เต็มอิ่ม

เตียงนอนคนป่วยจะมีฟังชั่นเยอะ...

กล่าวคือจะปรับเตียง ยกหัว ยกขา ก็ได้

และเตียงก็มีที่กั้น กันตก ยกขึ้นยกลงได้

...เกิดสงสัยขึ้นมา...

จึงถามพ่อว่า

"ตอนนอนพ่อยกเหล็กกันตกขึ้นหรือเปล่า?"

พ่อตอบ แกมเหน็บแนมนิดหน่อย
คุณอาจสงสัยว่า พ่อเหน็บแนมใคร...
คำตอบอยู่ในคำพูดของพ่อ


"ถ้าตอนแม่อยู่แม่ก็จะยกเหล็กกั้นขึ้น
ไม่ใช่กันไว้ว่ากลัวพ่อจะตก
แต่กั้นไว้ว่า กลัวพ่อจะหล่นลงไปทับแม่!!!"

แม่อาจเป็นคนเฝ้าไข้ได้ไม่ดีพอ

เพราะบางที คนป่วยอย่างพ่อ ต้องปลอบใจคนเยี่ยมอย่างแม่ด้วยซ้ำ!
blog comments powered by Disqus